ไพ่เก้าเก
- ผู้แต่ละคนวาง เดิมพัน เรียกว่า ค่าต๋ง ลงใน กองกลางหรือ แจ็คพอต ตามจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น ลูกอมคนละ 1 เม็ด
- สับไพ่แจกให้ผู้เล่นแต่ละคนทีละใบจนครบ 3 ใบ การแจกไพ่เริ่มจากใครก็ได้ในตาแรก แต่ตาถัดไปให้แจกผู้เล่นคนถัดไปทางซ้ายเป็นคนแรก เลื่อนไปเรื่อยๆ
- ผู้เล่นแต่ละคนดูไพ่ในมือ ว่ามีแต้มแค่ไหน วิธีนับแต้ม มีดังนี้
- ตัวเลขจะมีค่าตามเลขนั้นๆ ยกเว้น 10 J Q K นับเป็น 0 ส่วน A นับเป็น 1 แต้มที่รวมกันเกินสิบ ให้ตัดเลขหลักสิบออก เหลือแต่เลขหลักหน่วย
- แต้ม มากสุดของตัวเลขคือ เก้าแต้ม แต่ยังมี แต้มพิเศษ ที่เหนือกว่า จะกล่าวถึงต่อไป
- แต้มพิเศษ มีดังนี้ สี เซียน เรียง ตอง และ เรียงสี ตามลำดับ จากน้อยไปมาก
- สี หมายถึงไพ่ในมือทั้งสามใบเป็นไพ่ ดอกเดียวกัน เหนือกว่า เก้าแต้ม
- เซียน หมายถึงไพ่สามใบเป็นไพ่ในกลุ่ม J Q K ทั้งสามใบ เหนือกว่า เก้าแต้ม สี และเรียง
- เรียง (สเตรท) หมายถึง ไพ่สามใบในมือ มีเลขเรียงกัน (เรียง 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J, Q, K, A) เหนือกว่า เก้าแต้ม สี
- ตอง หมายถึง ไพ่สามใบในมือ เป็นเลขเดียวกันทั้งสามใบ เหนือกว่า เก้าแต้ม สี เซียน เรียง และสเตส (ถือกันว่าตอง 3 มีค่ามากที่สุด เพราะมีค่าบวกกันได้ 9 นอกนั้นวัดกันตามลำดับเลขไพ่)
- เรียงสี (สเตรทฟลัช) หมายถึง ไพ่สามใบในมือ มี K Q A และดอกเดียวกัน
- เซียนสู้เซียน เรียงสู้เรียง ตองสู้ตอง ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ (A สูงสุด 2 ต่ำสุด ถ้าเลขเท่ากัน ให้เรียงดอกจากสูงไปต่ำคือ โพดำ โพแดง ข้าวหลามตัด และดอกจิก)
- เมื่อผู้เล่น ดูไพ่แล้วมีทางเลือก ดังนี้ (ให้แต่ละคนเลือกตามลำดับการแจกไพ่)
- "หมอบ" ให้คว่ำไพ่ไว้ข้างหน้า ผู้เล่นที่หมอบจะไม่ต้องเล่นต่อในตานี้ แต่จะเสีย ค่าต๋งและเดิมพัน ที่ได้ลงไว้แต่แรก
- "สู้" เฉพาะผู้เล่นคนแรกที่ไม่ได้หมอบจึงจะเลือก"สู้" ได้ ให้วางเดิมพันลงไป อย่างน้อยเท่ากับ ค่าต๋ง
- "ตาม" ให้วางเดิมพันจนเท่ากับคนก่อนหน้า
- "เกทับ" หลังจากตามแล้วสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้ ผู้เล่นคนถัดไปต้องเลือก หมอบ ตาม หรือ เกทับ
- หลังจากผู้เล่นทุกคนเห็นตรงกันว่าจะไม่เพิ่มเดิมพันแล้ว ให้เปิดไพ่ผู้เล่นที่ยังไม่หมอบ ผู้ที่มีแต้มสูงสุดจะชนะได้เดิมพันในกองกลางทั้งหมด
- ถ้าแต้มเท่ากัน ให้ผู้เล่นที่แต้มเท่ากันเท่านั้น เล่นในตาถัดไปโดยใช้กองกลางเดิม จนกว่าจะมีผู้ชนะเดิมพันทั้งหมด
- เล่นไปจนกว่าจะเบื่อ หรือ เดิมพันหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น